ลูกอมสมุนไพร ( สูตร ไม่เจือสีและไม่ใส่วัตถุกันเสีย )
สูตรมาตรฐาน
- น้ำตาลทรายขาว 69.1 กรัม
- กลูโคสไซรัป 29.5 กรัม
- สมุนไพร 1.4 กรัม (แล้วแต่จะเลือกรส)
- น้ำ 10 ซี.ซี.
สมุนไพรที่ใช้ทำ ลูกอมสมุนไพร มีหลายชนิด สามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการ เช่น ดอกกระเจี๊ยบ, ดอกเก๊กฮวย, ชะเอม, ขิง, มะนาว, ส้ม, โคคา, ใบเตย,สเตอเบอรี่, เชอรี่, มะตูม ฯลฯ ลูกอมที่ดีและมีคุณภาพสูง จะต้องผลิตจากสมุนไพรโดยตรง โดยไม่ใช้กลิ่นและสีสังเคราะห์ ซึ่งอาจจะมีอันตรายต่อผู้บริโภค การผลิตลูกอมที่ใช้สมุนไพร จึงมีราคาแพงกว่าลูกอมตามท้องตลาดโดยทั่ว ๆ ไป
วิธีการเตรียมสมุนไพรนั้น แต่ละชนิดจะใช้กรรมวิธีที่แตกต่างกันออกไป ในที่นี้จะแยกเป็น 2 กลุ่ม
1. กลุ่มชนิดที่ใช้ดอกและผลแห้ง ตลอดจนกลุ่มที่ใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของลำต้น เช่น กระเจี๊ยบ, ชะเอม, เก๊กฮวย, ขิง ฯลฯ หลักการที่ใช้เตรียมสมุนไพร ใช้วิธีการต้มไฟอ่อน ๆ โดยอาจจะใช้สมุนไพร 1 ส่วน ผสมน้ำสะอาด 1 ส่วน ต้มให้เดือดเบา ๆ จนได้น้ำ, รส, กลิ่น, สี, คุณสมบัติของสมุนไพรนั้น ๆ พยายามเคี่ยวให้ได้ความเข้มข้นมากที่สุด จะได้สมุนไพรเข้มข้นที่จะนำไปใช้ผลิตลูกอมรสสมุนไพรต่อไป จำเป็นต้องทำวันต่อวัน เพราะน้ำสมุนไพรเข้มข้นที่ได้เก็บเอาไว้ได้ไม่เกิน 1 วัน ถ้าเกินอาจจะเสียได้ หรือถ้าจำเป็นที่จะต้องเก็บไว้นาน ๆ อาจจะแช่แข็งในห้องฟรีซของตู้เย็น น้ำสมุนไพรที่ได้ ควรกรองให้สะอาดปราศจากกากและตะกอน
2. กลุ่มชนิดที่ใช้น้ำของผล เช่น มะนาว, ส้ม สมุนไพรกลุ่มนี้ต้องถนอมคุณภาพของสารอาหารและวิตามินในธรรมชาติเอาไว้ จะใช้วิธีการต้มไม่ได้
วิธีที่ง่าย ๆ คือคั้นเอาน้ำออกมาด้วยมือหรือเครื่องคั้น เมื่อได้น้ำของผลไม้เป็นจำนวนมากพอแล้ว จึงทำการอบให้แห้งด้วยเครื่องอบแห้งระบบสูญญากาศ จะได้ผลของพืชชนิดนั้น ๆ ตามต้องการ
การใช้เครื่องอบสูญญากาศ อาจจะเป็นการลงทุนสูงเกินไป อาจใช้วิธีการใช้ความร้อนก็ได้ แต่เป็นความร้อนที่ไม่มากนัก เช่น อบในตู้อบความร้อนที่อุณหภูมิไม่เกิน 70 องศา น้ำในน้ำของสมุนไพรจะระเหยออกไปจนเกือบแห้ง นำน้ำสมุนไพรที่เข้มข้นไปใช้ผลิตเป็นลูกอมได้ต่อไป
ขั้นตอนการผลิต ลูกอมสมุนไพร
1. ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นลดความร้อนลงทันที ค่อย ๆ เทน้ำตาลลงไป กวนให้ค่อย ๆ ละลาย ขณะนี้ไฟจะอ่อนมาก ถ้าเป็นเตาแก๊สให้หรี่เปลวไฟให้เหลือน้อยที่สุด ถ้าเป็นเตาไฟฟ้าปรับไฟที่อุณหภูมิเกือบเดือด คือ ช่วงนี้จะใช้ความร้อนต่ำมาก ถ้าใช้ความร้อนสูงน้ำตาลจะไหม้
2. หลังจากน้ำตาลละลายหมดแล้ว จึงเติมกลูโคสไซรัปลงไป ค่อย ๆ กวนจนเข้ากันดี สุดท้ายจึงเติมสมุนไพรเข้มข้นลงไป เมื่อเข้ากันดีแล้วจะเป็นจังหวะที่น้ำที่ใส่ไปในครั้งแรกจะระเหยไปเกือบหมด กะให้น้ำระเหยออกไปหมด จึงรีบเทส่วนผสมนี้ลงไปในแบบพิมพ์ทันที
ลักษณะของแบบพิมพ์
จะทำด้วยทองเหลือง มีขนาดกว้างประมาณ 1 ซม. สูงประมาณ 1 ซม. ความยาวประมาณ 40 ซม.หรือสั้นกว่านี้ ออกแบบแบบพิมพ์ให้แกะออกมาได้ เพื่อแกะลูกอมที่แห้งและแข็งแล้วออกมาได้ง่าย ลูกอมที่แข็งจะมีความยาว จำเป็นต้องใช้เลื่อยไฟฟ้าหรือเลื่อยตัดขนมปัง ตัดออกมาเป็นท่อน ๆ ได้ลูกอมตามขนาดที่ตัดตามต้องการ ถ้าทำจำนวนมาก ๆ อาจจะนำลูกอมที่หล่อเป็นแท่งยาวหลาย ๆ แท่งมาประกบกันแล้วเลื่อยด้วยเลื่อยไฟฟ้า ครั้งละได้หลาย ๆ ท่อน เป็นการประหยัดพลังงาน ลูกอมที่ได้จะแข็งเปราะ ถ้ากะระยะยกลงจากเตาได้ถูกต้องแล้ว ลูกอมที่ได้จะแทบไม่มีน้ำผสมอยู่ด้วยทำให้ไม่ต้องใช้วัตถุกันเสียแต่อย่างใด ลูกอมจะเก็บไว้ได้นานไม่เสีย การเก็บควรใส่กระป๋องที่มีฝาปิดมิดชิด เก็บได้หลายปี
การปรับปรุงสูตร ลูกอมสมุนไพร
ถ้าต้องการความเย็นให้เติมเมนทอลลงไปด้วยประมาณ 0.1-1% ใส่พร้อมกับสมุนไพร ทำให้เย็นชุ่มคอลักษณะของเมนทอลจะเป็นเกร็ดใส ถ้าต้องการความเข้มข้นของรสชาด อาจจะเติมกรดซิตริกลงไปด้วย 0.1% กรดซิตริก เป็นกรดส้มไม่มีอันตรายต่อผู้บริโภค แต่ต้องไม่ใส่มากเกินไปจะเปรี้ยวมาก ถ้าต้องการความเผ็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจเติมเป๊ปเปอร์มิลท์ลงไป 0.1-0.5% อัตราส่วนผสมอาจจะเปลี่ยนแปลงได้แล้วแต่ความเหมาะสม ขึ้นอยู่การทดลองและวิเคราะห์กลุ่มผู้บริโภคว่าต้องการรสชาดแบบไหน
ในการผลิตลูกอมของผู้ผลิตบางราย อาจไม่ใช้สมุนไพร แต่ใส่สีผสมอาหาร และกลิ่นผสมอาหารลงไปก็ได้ลูกอมเช่นกัน แต่เป็นลูกอมที่อาจจะไม่ให้คุณค่ากับร่างกาย
หลักการในการทำการตลาดของลูกอมสมุนไพร จะต้องเจาะตลาดบน กลุ่มผู้บริโภคจะเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีรายได้ค่อนข้างดี เพราะราคาจะแพงพอสมควร อาจจะบรรจุกระป๋องหรือกล่องกระดาษที่ออกแบบให้ดูสวยงามมีคุณค่า เห็นแล้วน่าซื้อ จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ในช่วงเริ่มต้นอาจจะทำเล็ก ๆ ไปก่อน โดยอาจจะผลิตด้วยมือ เน้นที่ความสะอาด เน้นที่คุณค่าของสมุนไพร นำเสนอให้ผู้บริโภคเข้าใจในเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ของผู้ผลิต ที่ต้องการให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อธุรกิจก้าวหน้า มีลูกค้าเพิ่มขึ้น จึงค่อย ๆ ขยายกำลังการผลิตออกไปให้ใหญ่โตขึ้น อาจจะระดับประเทศและระดับโลก
มีลูกอมหลายยี่ห้อในโลกนี้ สามารถทำการตลาดได้ทั่วโลก มียอดขายมหาศาล ซึ่งเป็นไปได้ที่คนไทยเราอาจจะค้นคว้าสมุนไพรไทย ๆ ที่อร่อย รสชาดดี มีคุณค่ากับร่างกายสูงกว่า ผลิตลูกอมทำการตลาดได้ในระดับโลกในอนาคต
Leave A Comment