ชื่อสมุนไพร : ปอกะบิด
ชื่อวิทยาศาสตร์ :Helicteres H.isora
ชื่อวงศ์ : Malvaceae
วงศ์ย่อย :   Helicteroideae
ชื่อเรียกอื่น ๆ : ปอบิด ( East Indian Remote screw tree ) มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามพื้นที่ปลูก มะบิด (ทางภาคเหนือ) ปอทับ (จังหวัดเชียงใหม่) ช้อ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่) ข้าวจี่ (ประเทศลาว) ห้วยเลาะมั่ว (จีนแต้จิ๋ว) SA3D หั่วลั่งหมา (จีนกลาง) นาคพต มะปิด

 

ประโยชน์สรรพคุณของ ปอกะบิดใบปอกะบิด

-ลดน้ำตาลในเลือดในโรคเบาหวาน
-ลดความดันและลดไขมันในเลือด
-ลดน้ำหนักได้
-แก้โรคเหน็บชา ชาปลายมือปลายเท้า
-แก้ไมเกรน
-บรรเทาอาการของโรคไต
-โรคเก๊า ปวดข้อ ปวดเข่า ปวดหลัง
-ภูมแพ้ ไทรอยด์

ปอกะบิด จัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ The 1-3 เมตร มีขนสีน้ำตาลปกคลุมทั่วทุกส่วน ลำต้นกลม เรียว และอ่อนคล้ายเถา บริเวณส่วนเปลือกมีสีเทาและจะมียางเหนียว ๆ ใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่ ผิวสัมผัสแผ่นใบจะสาก ท้องใบจะมีขน กว้าง 2.5-3.5 นิ้ว และจะยาวประมาณ 4-8 นิ้ว ม้วนเว้าเข้าหากัน ขอบใบหยักเป็นแบบฟันปลา ดอกจะมีสีส้มหรือสีแดงอิฐ จะออกเป็นกระจุก Hausapotheke ระหว่างลำต้นกับใบ กระจุกละประมาณ 2-3 ดอก แต่ละดอกมีใบประดับขนาดเล็กรองรับ มีกลีบรองกลีบดอกออกสีเหลือง ๆ มีกลีบดอก 5 กลีบ กลีบคู่บน มีขนาดใหญ่กว่ากลีบอื่น ปลายกลีบมน มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน เกสรตัวผู้มีสีเหลือง มี 10 อันเชื่อมรวมกับก้านของเกสรตัวเมีย ส่วนของผล มีลักษณะเป็นฝักยาว กลม บิดเป็นเกลียว มีทั้งบิดซ้ายและบิดขวา ยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร ผลจะออกประมาณช่วงเดือน ธันวาคม-มกราคม เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาลหรือสีดำ เวลาแก่จัดเต็มที่ ฝักจะอ้าออก ส่วนของลำต้นกลมเรียวอ่อนดูคล้ายเถา

ปอกะบิด จะสามารถพบได้ทั่วไปในป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง หรือในที่รกร้างว่างเปล่า ตั้งแต่ภาคเหนือThaiherbtherapy-ดอกปอกะบิด ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ไปถึงอินเดียและจีนตอนใต้ ไล่ไปทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ระดับความสูง 100-400 เมตร

สรรพคุณทางยา ปอกะบิด

ส่วนของราก เอามาใช้ต้ม เอาน้ำกิน รสชาติจะฝาดเฝื่อน แต่สามารถบำรุงธาตุ แก้ท้องร่วง แก้บิด year ขับเสมหะ แก้ปวดเคล็ดบวม โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิต

ส่วนเปลือกลำต้น จะมีสารเฮมิเซลลูโลส 15.8%, เซลลูโลส 18.6%, ลิกนิน 2.89%, เพคติน 0.4%, น้ำมัน 3.11%, กรดไฮดรอกซี่คาร์บอซีลิค, ไฟโตสเตอรอล, phobatanin ใช้เปลือกลำต้นนำมาต้มเป็นยาแก้โรคบิดได้และรักษา ท้องร่วง และเป็นยาบำรุงธาตุ

ฝัก สามารถนำมาใช้แก้บิด แก้ปวดท้อง แก้โรคลำไส้ในเด็ก

ส่วนของแก่น รสจะจืดเฝื่อน บำรุงน้ำเหลืองดี บำรุงกำลัง แก้เสมหะ แก้น้ำเหลืองเสีย

ผล ใช้ผลแห้ง 10-15 กรัม นำมาต้มแล้วเอาน้ำที่ได้มากินแก้ท้องอืดได้ แก้ปวดเคล็ดบวม แก้เสมหะ แก้ลงแดง กระเพาะอาหารเป็นแผล อักเสบ หรือเรื้อรัง

ปอกะบิด นับว่าเป็นสมุนไพรไทยที่จัดว่าหายากอีกตัวหนึ่ง สาเหตุเป็นเพราะสมุนไพรชนิดนี้ 1 ปี จะออกเพียงแค่ครั้งเดียว ส่วนใหญ่จะพบได้จากป่าที่เป็นธรรมชาติในจังหวัดกาญจนบุรี 100% สมุนไพรปอกะบิด จะช่วยให้โรคต่าง ๆ บรรเทาลง และส่งผลให้เห็นได้อย่างชัดเจน คนที่ใช้จึงเชื่อกันว่าเป็นสมุนไพร

การขยายพันธุ์ของ ปอกะบิด
ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด

วิธีการต้ม ปอกะบิด
     ให้ใช้ ฝักปอกะบิด 50 ฝัก ล้างให้สะอาดดี แล้วจึงค่อยนำไปต้มกับน้ำ 3 ลิตร 50 ฝักสามารถต้มได้ 4 ครั้ง ให้สังเกตุสีของน้ำว่าจางหรือยัง จึงค่อยเปลี่ยนครับ หรือ น้อยหน่อยก็ ใช้ต้มในน้ำร้อน 25 ฝัก ต่อน้ำ 1.5 ลิตร ต้มประมาณ 15-20 นาที

วิธีรับประทาน
ดื่มง่ายครับได้ทั้งร้อนและเย็น ดื่มแทนน้ำได้เลย เหมือนThaiherbtherapy-ฝักอ่อนปอกะบิดน้ำชา รสชาติ กลมกล่อม หอม ดื่มง่าย ให้ดื่มติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือนนะครับจะเห็นผล

ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ ปอกะบิด เป็นสมุนไพรที่เป็นที่รู้จักอย่างแผ่หลายและถูกส่งไปขายทั่วประเทศเนื่องด้วยสรรพคุณที่มีมากมายจนเป็นที่เรียกกันติดปากในชื่อ สมุนไพรมหัศจรรย์ และความหายากของปอกะบิดจึงทำให้เป็นที่ต้องการอย่างมา จากที่เคยได้ถามคนที่เก็บฝักแห้งมาขาย เขาเล่าว่าเขาต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าลึกมากแหล่งที่เก็บ ปอกะบิด จะอยู่บนภูเขาต้องเดินเท้าเข้าไปไกลมากไปเช้ากลับเย็นๆ เลยครับกว่าจะได้สมุนไพรที่มีประโยชน์และมีคุณค่าออกมาขายให้คนทั่วไปได้หามาไว้ใช้รักษาโรคภัยต่างๆ แต่ถึงจะเป็นสมุนไพรที่วิเศษแค่ไหนมันก็ยังสามารถทำร้ายร่างกายของเราได้ไม่แพ้กันถ้าเราท่านมากเกินปริมาณที่พอดีกับร่างกาย

คำเตือนควรระวังอย่างยิ่ง ท่านปอกะบิดติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน อันตราย ไตอาจวายได้ wholesale NFL jerseys ….. และมันก็ยังเป็นข้อเสียที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดีถ้าหากกินติดต่อกันนานๆ อาจทำให้ไตเสียหายได้เนื่องจากเมื่อทานชาปอกะบิดเข้าไปแล้วทั้งเศษผงที่ต่างๆ ที่ผสมอยู่ในน้ำ ร่างกายจะขับถ่ายของเสียรวมทั้งเศษผงเล็กกับไขมันต่างๆ ออกมา ทำให้ไตทำงานหนัก ในบทความข้างบน สรรพคุณนั้นบรรเทาอาการโรคไตได้ก็จริง แต่หาใช้ในปริมาณที่มากเกินพอดีก็อาจเป็นอันตรายได้เช่นกัน  ขอให้ใช้สมุนไพรด้วยความระมัดระวังด้วยครับ

นางเสาวณีย์ กุลสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์พื้นบ้านไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยข้อมูลว่า ปอกะบิดสามารถรักษาเบาหวานสามารถลดน้ำตาลในหนูทดลองได้ แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงโดยการทำลายตับของหนูทดลอง และยังเกิดการกระตุ้นหัวใจในกบได้ ดังนั้น ผู้ที่จะใช้สมุนไพรปอปิดจะต้องเข้าตรวจภาวะการทำงานของตับและไตอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 3 เดือน และห้ามใช้สมุนไพรในผู้ที่มีประวัติ หรือแม้แต่ครอบครัวผู้ทานมีประวัติเป็นโรคตับหรือโรคไต

Thaiherbtherapy-ใบปอกะบิดผู้อำนวยการสำนักการแพทย์พื้นบ้านไทย ยังให้ข้อมูลอีกว่า สมุนไพรปอบิดยังไม่มีงานวิจัยทางด้านพิษวิทยา แต่มีงานวิจัยด้านเภสัชศาสตร์ โดย รศ.รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่พบว่าแม้ปอกะบิดจะมีผลลดน้ำตาลในเลือดได้ใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบัน แต่ยังยังไม่สามารถนำมาใช้เป็นยาเพื่อทดแทนยารักษาเบาหวานได้ ดังนั้น หากจะใช้รักษาโรคก็ไม่ควรทานสมุนไพรติดต่อกันเกิน 7 วัน เพราะจะทำให้ปริมาณสารเคมีจากสมุนไพรนั้นควบคุมได้ยาก โดยเฉพาะกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นมักจะมีภาวะ ตับอ่อน ไต หัวใจไม่แข็งแรงอยู่แล้ว หากดูแลสุขภาพดีไม่เพี่ยงพอ ก็เสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนได้ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำให้ผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวที่ต้องการที่จะลดน้ำตาลในเลือดก็ให้ทานอาหารเป็นยาแทน เพราะปริมาณความเข้มข้นของสมุนไพรที่ได้จะมีความเข้มข้นต่างกัน เช่นการกินผักแกล้ม หรือ น้ำคั้น เช่น Courses ใบกะเพรา ใบบัวบก ก็มีฤทธิ์ลดน้ำตาลได้เช่นกัน แต่ต้องใช้หลักการเดียวกันคือ สลับสับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ไม่ให้เกิดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

สมุนไพรปอกะบิด จาก Thaiherbtherapy.com